MV Agusta Superveloce 800 Serie Oro เข้าสู่สายการผลิต พร้อมให้จับจองได้แล้ววันนี้ อยากสุด... จัดเลย! ยังคงเป็นไฮไลท์อยู่เหมือนเคยกับ Kawasaki Ninja H2 สุดยอดรถจักรยานยนต์ระดับโลก รถสปอร์ตที่ใช้งานได้บนท้องถนนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพละกำลังของเครื่องยนต์ 998 ซีซี ทำงานร่วมกับระบบ Super Charger ที่ ให้พละกำลังมากถึง 200 แรงม้า และสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจด้วยระบบ KTRC (Kawasaki Traction Control) ระบบป้องกันการลื่นไถลที่สามารถปรับระดับได้ตามสภาพการใช้งานให้เหมาะสม. MV Agusta เตรียมเปิดตัว Brutale 800 โฉมใหม่ในปี 2016.
เครื่องยนต์ขนาด 798 ซีซี 3 สูบ 12 วาล์ว DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว พละกำลังสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 11, 500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 83 นิวตันเมตร ที่ 7, 600 รอบต่อนาที เกียร์ 6 สปีด. ค่ายยักษ์ใหญ่โลโก้ปีกนกอย่าง Honda ส่ง Honda GoldWing 40th Anniversary Edition เป็นบิ๊กไบค์ทัวริ่งรุ่นพิเศษที่จัดทำขึ้นในโอกาสครบรอบ 40 ปีของรถในตระกูล GoldWing ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาด 1, 800 ซีซี พร้อมด้วยระบบครูซคอนโทรลและเกียร์ถอยหลัง เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ ปลอดภัยด้วยระบบถุงลมนิรภัย. กลายเป็นประเพณีสำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ไปแล้ว สำหรับงาน แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2015 หรือ BMF 2015 ซึ่งในปีนี้ดูเหมือนจะเป็นการประกาศศักดาการต่อสู้ทางการตลาดกันอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งจากทวีปยุโรปที่เริ่มปล่อยทีเด็ดออกมาเรื่อยๆ เรียกเสียงฮือฮาเป็นระยะ รวมไปถึงค่ายจากดินแดนปลาดิบที่เพิ่มตัวเลือกทางการตลาดมากขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร ซึ่งในงานนี้จะมีค่ายไหนนำรุ่นที่โดดเด่นน่าจับตามองมาโชว์ตัวกันบ้าง เรามาดูกัน. 2021 MV Agusta Dragster RR SCS RC ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบสีชนิด TFT ขนาด 5. การเปลี่ยนแชสซีของ 2021 MV Agusta Dragster RR SCS RC ทำให้ตัวรถมีความแข็งแรงมากขึ้นและทนต้อแรงบิดมากขึ้น รวมถึงการเซ็ทอัพระบบกันสะเทือนใหม่ทั้งหมด โดยโช้คหน้าให้ของ Marzocchi และโช้คหลังเป็นของ Sachs. MV Agusta Brutale America รุ่นพิเศษ ถ่ายทอดเสน่ห์ความเป็นอเมริกาผ่านเน็กเก็ตไบค์สุดบึกบึน. มาดูรถดังฝั่งอิตาลีเจ้าของตำนานความคลาสสิกอย่าง Ducati กันบ้าง ในงานนี้ก็ยังคงเน้นไปที่โมเดลใหม่ที่ผลิตในประเทศไทยอย่าง Scrambler ที่เปิดตัวไปแล้วในปีที่ผ่านมา ซึ่งในงานครั้งนี้ก็ขนยกมาทั้ง 4 รุ่นอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น Icon, Full Throttle, Classic และ Urban Enduro ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ L-Twin Desmodromic ขนาด 830 ซีซี ให้กำลัง 75 แรงม้า แรงบิด 68 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ 6 สปีด. MV Agusta Brutale 800 RR สปอร์ตเน็กเก็ตไบค์ที่มอบความสมบูรณ์แบบในการขับขี่ภายใต้สมรรถนะแบบจัดเต็ม. เบรกหลัง: ดืสก์เดี่ยว ขนาดจาน 220 mm คาลิเปอร์ Brembo 2 พอร์ต. MV Agusta และ Pirelli เปิดตัว Diablo Brutale รถบิ๊กไบค์เวอร์ชั่นพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองการทำงานร่วมกัน. MV Agusta ม้าศึกหน้าหล่อในงาน BIG Motor Sale 2015. 2021 MV Agusta Dragster RR SCS RC เรือธงใหม่ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dragster สำหรับรหัส RC ย่อมาจาก Reparto Corse และ MV Agusta Racing Department จะช่วยเพิ่มความสนุกด้วยโมเดลที่โดดเด่นคันนี้ให้มีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม. 5 ลิตร ที่ดูเป็นมัดกล้าม รวมถึงเบาะแยกทันสมัยขึ้น ส่วนเฟรมถัก เครื่องยนต์ที่เปรียบเสมือนของที่ต้องโชว์นั้นปรับแค่เล็กน้อย แต่ท่อไอเสีย 3 ท่อ ที่เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์เครื่องยนต์ 3 สูบ ของ MV Agusta ซึ่งคล้ายปีกนกดูพลิ้วสวยงามน่ามองกว่าเดิมไปอีกสเต็ป. ระบบกันสะเทือนหน้า: Marzocchi แบบ Upside-Down ขนาดแกน 43 mm ปรับระยะพรีโหลดได้.
นอกจากนี้ก็ยังมีรถอีก 5 รุ่นระดับตำนานในเวอร์ชั่น 2015 มาโชว์ด้วยเช่นกัน ประกอบด้วย Indian Chief Classic สุดยอดครุยเซอร์ทรงพลัง Indian Chief Vintage รถสไตล์ Soft Bagger และ Indian Chieftain รถสไตล์ Hard Bagger ที่ปรับโฉมและสีตัวรถใหม่ รวมถึงครุยเซอร์เซอร์ขนาดใหญ่อย่าง Indian Roadmaster. ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบกลับด้านของ Marzocchi ด้านหลังเป็นสวิงอาร์มเดี่ยว โช้คอัพเดี่ยวของ Sachs สามารถปรับแบบแมนนวลได้ทั้งหมด 8 ระดับ ส่วนเบรกเป็นของ Brembo จานดิสก์ขนาด 320 มม. MV Agusta เตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ คลาส 1, 000 ซีซีอีกสามรุ่น. Mercedes-Benz เตรียมเสริมพื้นที่ในโชว์รูม เพื่อทำตลาดสองล้อสุดเร้าใจภายใต้แบรนด์ MV Agusta. ตารางผ่อนดาวน์ MV Agusta Brutale 800 Rosso. ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก: 79mm x 54. Rosso ราคา 437, 000 บาท.
MV Agusta Brutale และ Dragster 800 2020 จัดเต็มสมรรถนะไปอีกขั้นด้วย Smart Clutch System. 2 ซีซี 44 แรงม้า ที่ 9, 500 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดที่ 35 นิวตันเมตร ที่ 7, 250 รอบต่อนาที ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Up Side Down ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบโช๊คอัพเดี่ยว WP โครงสร้างแบบสเปซเฟรมให้น้ำหนักเบา ทำงานคู่กับสวิงอาร์มอลูมิเนียม ช่วยในการทรงตัวดีมากกยิ่งขึ้น. MV Agusta Dragster 800 Blackout มอบความดุเข้มด้วยชุดแต่งสุดโหด พร้อมออพชั่นล้ำสุดขั้ว. เครื่องยนต์ขนาด 798 ซีซี 3 สูบเรียง ได้รับการอัปเดตใหม่เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน Euro5 และมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพภายในของเครื่องยนต์กับสลิปเปอร์คลัทช์, แกนเพลาข้อเหวี่ยงใส่แบริ่งตัวใหม่ แถมเพลาข้อเหวี่ยงให้แรงเสียดทานน้อยลง การทำงานของเครื่องยนต์เงียบขึ้นและลูกกระทุ้งวาล์วเคลือบ DLC ส่วนระบบท่อไอเสียเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด รวมถึงกล่อง ECU ก็ถูกอัพเกรดใหม่ทั้งหมดเช่นกัน. ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้เลยคือวงล้อซี่ลวดหน้า-หลัง ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นรถ Naked Bike อย่างแท้จริง และขอบอกเลยว่าถ้าใครอยากได้เป็นเจ้าของต้องรีบกันหน่อยเพราะ Brutale 800 Dragster RR รุ่นนี้มาเมืองไทยไม่น่าจะเกิน 15 คันเท่านั้น ส่วนราคาค่าตัวเปิดออกมาที่ 1, 290, 000 บาท. ส่วนอีกคันที่จะได้ยลโฉมในงานนี้คือ Z300 ปี 2015 ที่ได้รับการปรับเครื่องยนต์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น 296 ซีซี ให้กำลัง 39 แรงม้า แรงบิด 27 นิวตันเมตรที่มาพร้อมด้วยระบบเบรกแบบ ABS. ทั้งสองรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ เป็นเครื่องยนต์แบบสูบเดี่ยว 4 วาล์วระบายความร้อยด้วยน้ำ สำหรับรุ่น RC200 มีความจุกระบอกสูบ 199. ดูข้อมูลเพิ่มเติม และ ดาวน์โหลดโบรชัวร์ ได้ที่นี่. ทั้งนี้ MV Agusta Brutale 800 RR ปี 2017 ใหม่ จะมี 2 ชุดสีให้เลือก ได้แก่ Ice/Carbon Black Metallic และ Red Shock Pearl/Carbon Black Metallic ส่วนราคายังไม่มีการอัพเดทแต่อย่างใดครับ. MV Agusta Rush 1000 ไฮเปอร์เนคเก็ตไบค์สุดอาร์ท เตรียมเขย่าตลาดมิถุนายนนี้ ในจำนวนจำกัดเพียง 300 คัน. ควบคุมการจุดระเบิดด้วย MVICS 2. MV Agusta RVS เน็กเก็ตไบค์สไตล์ Scrambler มอบอารมณ์อันดุดัน คมเข้มเต็มพิกัด. MV Agusta เผยคลิปทีเซอร์แรกของรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่พัฒนาร่วมกับ Zagato. ระบบไฟฟ้าและการควบคุม.
หากต้องการแรงม้าเพิ่มอีก 10 แรงม้า ก็ต้องใส่ชุดแต่ง Racing Kit ประกอบด้วยท่อไอเสีย SC-Project Titanium ที่เบากว่าเกือบ 8 กิโลกรัม พร้อมกล่อง ECU ที่ถูกจูนมาให้โดยเฉพาะ ทำให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นทั้งแรงบิดและแรงม้า. MV Agusta เผยโฉมซุปเปอร์ไบค์ต้นแบบที่พัฒนาร่วมกับ Zagato ภายใต้ชื่อ F4Z. ค่ายรถครุยเซอร์รุ่นใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีตำนานมากว่า 100 ปี เปิดตัวน้องใหม่ Indian Scout ตำนานคลาสสิกที่หล่อหลอมนวัตกรรมและงานศิลปะไว้ในคันเดียว มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1, 130 ซีซี แบบ V-Twin ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งนับว่าเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้งาน. คันเร่งไฟฟ้าจาก Mikuni. MV Agusta F4 Claudio Castiglioni Edition ดำเข้ม ดุดัน ถ่ายทอดจิตวิญณาณจากนักออกแบบรถชั้นนำระดับโลก. MV Agusta RVS อัพเดทข้อมูลของสตรีทเน็กเก็ทสไตล์ Scrambler ที่สร้างขึ้นเพื่อลูกค้าพิเศษโดยเฉพาะ. MV Agusta Superveloce 800 Serie Oros พร้อมเดินหน้าการผลิตอีกครั้ง หลังชะงักจากพิษ COVID 19.
MV Agusta ประกาศศักดา ลุยตลาดเต็มตัว พร้อมข่าวคราวล่าสุดของสปอร์ตน้องเล็ก F3. Engine control unit Eldor EM 2. MV Agusta 1000 Brutale 2017 เผยภาพโฉมจำหน่ายจริงของซุปเปอร์เน็กเก็ตไบค์รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ. ยังเปิดตัวในปีนี้ได้อย่างน่าสนใจเช่นเคย กับการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย เอาใจคนชอบรถแข่งสไตล์สปอร์ต ที่มีมาให้เลือกจับจองถึง 2 รุ่น คือ RC200 และ RC390 ที่ได้รับการออกแบบบนพื้นฐานทางวิศวกรรมรถแข่งที่ถ่ายทอดมาจาก RC250GP รถแข่งแชมป์โลก Moto3.
MV Agusta เดินหน้าลุยตลาด Big Bike เต็มกำลัง เปิดราคาอย่างเป็นทางการกว่า 13 รุ่น. MV Agusta ซื้อหุ้นคืนจาก Mercedes-AMG ประกาศอิสรภาพอย่างเต็มภาคภูมิ. MV Agusta เผยยอดขายทั่วโลก ที่เติบโตมากขึ้นถึง 30%. ให้กำลังแรงม้าสูงสุด: 110 แรงม้า (hp) ที่ 11, 500 รอบต่อนาที.
MV Agusta เผยภาพทีเซอร์แรกของบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ ที่ได้รับการรังสรรค์จากสำนัก Zagato. งานนี้มีสนุกแน่เมื่อ Yamaha นำตัว MT-07 มาโชว์ตัวในงาน Yamaha MT-07 มากับเครื่องยนต์ขนาดสองสูบ 689 ซีซี 74 แรงม้าที่ 9, 000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดที่ 50 ปอนด์ต่อฟุต ที่รอบเครื่อง 6, 500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ซึ่งเท่าที่ได้ข่าวมา คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้นี้ ราคาคาดว่าจะอยู่ในระดับ 300, 000 บาทบวกลบ. MV Agusta เผยโฉม Dragster Special Edition เตรียมเปิดตัวที่งาน Verona Motor Bike Expo. ระบบกันสะเทือนหลัง: Sachs แบบโช้คเดี่ยว ปรับระยะพรีโหลดได้. ระบบส่งกำลัง: คลัชแบบเปียกซ้อนกันหลายแผ่น ควบคุมด้วยปั๊มไฮดรอลิค. 5 นิ้ว และปุ่มควบคุมบนแฮนด์ที่จะช่วยให้การใช้งานระบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย. MV Agusta Brutale เตรียมเพิ่มความดุดันด้วยสีดำด้าน. นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจวัดความเคลื่อนใหวภายใน (IMU) ตัวใหม่ที่ทำงานร่วมกับชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันล้อหมุนฟรี 8 ระดับและระบบเบรกในโค้ง ซึ่งซอฟต์แวร์ของ Continental MK100 ABS ยังรู้ด้วยว่าเมื่อตัวรถกำลังเอนตัวลง มันจะปรับการทำงานของแรงดันน้ำมันเบรคให้เหมาะสม ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการช่วยขับขี่แบบอื่นๆ ได้แก่ ระบบป้องกันล้อหน้ายก, ระบบป้องกันล้อหลังยก, ระบบควบคุมแรงบิด, ระบบควบคุมการออกตัวและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ. สีตัวถัง MV Agusta Brutale 800 Rosso. ส่วนอีกรุ่นที่น่าจับตามองในงานก็คงหนีไม่พ้น Ducati 899 Panigale รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตบล็อคเครื่องยนต์ขนาด 898 ซีซี 148 แรงม้า ที่มีความโดดเด่นทางด้านดีไซน์โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย ด้วยการนำเทคโนโลยีของรถแข่งในสนามอย่าง Panigale มาปรับใช้เพื่อความคล่องแคล่วมาขึ้น. เรียบเรียงโดย: 168Automotive.
ส่วนอีกรุ่นที่น่าสนใจก็คงไม่พ้น NM4 รถบิ๊กไบค์แนวใหม่ดีไซน์ล้ำอนาคต โฉบเฉี่ยวเหนือทุกจินตนาการในทุกมิติของตัวรถ ออกแบบให้ผู้ขับขี่รู้สึกเหมือนอยู่ในห้อง Cockpit ของเครื่องบิน มาพร้อมชุดไฟรอบคันแบบ LED และเรือนไมล์แบบ LED ที่สามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 25 สี ขับเคลื่อนไปกับเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี เลือกขับขี่ได้ทั้งโหมดเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เทคโนโลยี DCT (Dual Clutch Transmission) ที่ให้ความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์พร้อมระบบเบรก ABS. ทั้งนี้ในส่วนของเครื่องยนต์ MV Agusta Brutale 800 RR ปี 2017 ยังคงเป็นแบบ 3 สูบ เรียง ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 13, 100 รอบ/นาที และแรงบิด 86 นิวตันเมตร ที่ 10, 100 รอบ/นาที ผ่านมาตรฐานมลพิษในระดับ Euro 4 จับคู่กับเกียร์ 6 สปีด ที่มี Quick Shift เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control ปรับได้ 8 ระดับ. MV Agusta F3 800 AMG บิ๊กไบค์รุ่นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจาก AMG GTS. Bangkok Motorbike Festival 2015 ศึกบิ๊กไบค์ในปีนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง. Bangkok Motorbike Festival 2018 เปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ มหกรรมมอเตอร์ไซค์ชั้นนำที่คอไบค์เกอร์ไม่ควรพลาด. MV Agusta Brutale 800 RR LH44 Edition งานลิมิเต็ด เด็ดสุดขั้ว เอาใจแฟนคลับ Lewis Hamilton. ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยน้ำ และน้ำมัน.
MV Agusta ได้เปิดตัว Brutale 800 ซีรี่ส์ใหม่ในชื่อ Rosso ที่เป็นซีรี่ส์ราคาประหยัดโดยทาง MV Agusta ได้กล่าวถึงซีรี่ส์นี้ว่าได้ลดต้นทุนในการผลิตจึงได้ปรับราคาลง อย่าง ล้อแม็กซ์ที่ลดต้นทุนในการผลิต เปลี่ยนสีอุปกรณ์ต่างๆรวมถึงโครงสร้างให้เป็นสีดำ อีกทั้งพวกเขายังได้บอกว่า ทางค่ายได้พบขั้นตอนการผลิตที่มีประสิทธิภาพในการสร้างซีรี่ส์ Rosso ให้มีต้นทุนต่ำลง และทำให้พวกเขาปรับราคาของรถซีรี่ส์นี้ลงได้แบบที่ต้องการ.